[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
.::ครอบครัวฟ้าแสด::.
[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by ATOMYMAXSITE 2.9
   
ยินดีต้อนรับคุณ บุคคลทั่วไป  
  

งานวิจัยการศึกษา
    เรื่อง : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา 3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

เจ้าของผลงาน : นางสาวณิชากร เทศกูล
เสาร์์ ที่ 2 เดือน กันยายน พ.ศ.2566
เข้าชม : 688    จำนวนการดาวน์โหลด : 148 ครั้ง
5 stars เฉลี่ย : 5 จาก 2 ครั้ง.

บทคัดย่อ :
ชื่อเรื่อง        : การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบ ชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิด                          อย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน      :  นางสาวณิชากร เทศกูล
ปีการศึกษา    :  2565                    
บทคัดย่อ
 
                  การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3      สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้  มีความมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา 3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น (3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (3.2) เพื่อศึกษาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ หลังการใช้รูปแบบการรจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ (3.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา 3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 จำนวน 38 คน ได้มาโดยวิธีการ สุ่มแบบกลุ่ม (cluster Random Sampling )  ในภาคเรียน 1                  ปีการศึกษา 2565 ที่กำลังเรียนวิชาพื้นฐาน รายวิชาสุขศึกษา 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.23 – 0.63 และค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.04-0.63 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.88  3) แบบวัดความสามารถการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจสำหรับนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STADฯ ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.921 สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test dependent samples)
ผลการวิจัยพบว่า
             1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ 81.95/81.78 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
  2. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบ
ชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6014 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.14
3. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบ
ชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนมีค่าดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.7458 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมี              การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.58
4. นักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD
ประกอบชุดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และส่งเสริมการคิดอย่างมีวิจารณญาณ รายวิชาสุขศึกษา3 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนพบว่า มีความพึงพอใจโดยรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.71 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.17 อยู่ในระดับมากที่สุด



ดาวน์โหลด  ( บทคัดย่อ) 

งานวิจัยการศึกษา 5 อันดับล่าสุด

      การประเมินโครงการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมโครงงาน บูรณาการตามแนวคิดการประเมินแบบ CIPPIEST Model 23/ส.ค./2567
      การพัฒนารูปแบบการนิเทศติดตามการจัดการเรียนรู้การสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โรงเรียนพรานวิบูลวิทยา อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ 17/ส.ค./2567
      การประเมินโครงการพัฒนาสมรรถนะครูเพื่อการจัดการเรียนรู้การสอนคิดตามแนวทาง Thinking School โรงเรียนร่มโพธิ์วิทยา อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ 17/ส.ค./2567
      รูปแบบการส่งเสริมสมรรถนะครูโรงเรียนไตรมิตร ในการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะสำคัญของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 6/ส.ค./2567
      รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมนักเรียนโรงเรียนไตรมิตร 6/ส.ค./2567